คู่ที่1 บาเลนเซีย VS เรอัล มาดริด ราคาในตลาดหลักทรัพย์เปิดมาให้ ทีมเยือน ต่อ 1

คู่นี้ บาเลนเซีย เตรียมเปิดสนาม  Estadio de Mestalla  ต้อนรับการมาเยือนของทีม เรอัล มาดริด โดยเจ้าบ้าน บาเลนเซีย กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เนื่องจากพวกเขารั้งอันดับ 19 ของตารางคะแนน ซึ่งถือว่าเป็นโซนอันตรายต่อการตกชั้น ด้วยคะแนนเพียง 12 แต้มจาก 17 นัด การชนะเพียง 2 นัดตลอดฤดูกาล บ่งบอกถึงปัญหาทั้งในเกมรุกและเกมรับที่ยังหาความแน่นอนไม่ได้ อย่างไรก็ตาม การเสมอ อลาเบส ในเกมล่าสุด อาจช่วยเรียกความมั่นใจกลับมาได้บ้าง ทางฝั่ง เรอัล มาดริด ของกุนซือ  คาร์โล อันเชล็อตติ กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ด้วยการรั้งรองจ่าฝูง ของตารางคะแนน และยังคงมีโอกาสลุ้นแชมป์ พวกเขาชนะไปถึง 12 นัดจาก 18 เกมในฤดูกาลนี้ ซึ่งบ่งบอกถึงคุณภาพในเกมรุกและความมั่นคงของทีม การเอาชนะ เซบีย่า ในนัดล่าสุด ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับทีม ราชันชุดขาว เป็นอย่างมาก  ดูแล้วเกมนี้ บาเลนเซีย จะพยายามเน้นตั้งรับและรอสวนกลับ เนื่องจากพวกเขาต้องการอย่างน้อย 1 แต้มเพื่อเพิ่มโอกาสในการหนีตกชั้น แต่ด้วยคุณภาพทีมและฟอร์มที่เหนือกว่า เรอัล มาดริด มีโอกาสสูงที่จะเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะได้ตามเป้า

เจ้าบ้าน บาเลนเซีย ฟอร์ม 6นัดหลังสุด ชนะ1 เสมอ2 แพ้3 อยู่ในช่วงยากลำบากเหมือนกัน แต่ทว่าทีมเยือนเอง ก็ฟอร์กำลังตกพึ่งปลดล็อคชัยในรายการยูฟ่ามาได้  จากผลงานที่ย่ำแย่แบบสุดขีดด้วยการจมเป็นรองบ๊วยลีกส่งผลให้บอร์ดบริหารตัดสินใจไล่ รูเบน บาราฆ่า ออกจากตำแหน่งพร้อมแต่งตั้ง การ์ลอส กอร์เบรัน ขึ้นมากุมบังเหียนแทนแต่เริ่มงานวันแรกก็มีเรื่องให้ปวดหัวทันทีเนื่องจากจะไม่ได้ใช้งาน เปเปลู (15 นัด/1 ประตู) กองกลางที่ติดโทษแบนหลังสะสมใบเหลืองครบโควต้ากับ ฟราน เปเรซ (7 นัด) ปีกขวาที่บาดเจ็บเพิ่มเติมไม่พร้อมช่วยทีมทั้งคู่ ทำให้วันนี้คาดว่า เอนโซ่ บาร์เรเนเชีย (12 นัด/1 ประตู) และ หลุยส์ ริโอฆา (16 นัด/3 ประตู) จะได้ลงทำหน้าที่ตามลำดับ ส่วนที่เหลือไม่มีปัญหาพร้อมวาง อูโก้ ดูโร่ (14 นัด/4 ประตู) ยืนค้ำเดี่ยวเป็นหน้าเป้าในระบบ 4-2-3-1 ต่อไป

ทีมเยือน เรอัล มาดริด ฟอร์ม 6นัดหลังสุด ชนะ4 เสมอ1 แพ้1 กำลังกลับมาเข้าฝักอีกครั้ง หลังจากพลิกสถานกาณ์มาได้ รั้งอันดับ 2 ของตาราง ตามหลังอันดับ1 อย่างแอตเลติโก มาดริด 1คะแนนเท่านั้น เอาละคับการแย่งชิงหัวตารางมันแน่นอน อันดับ1-5 นี่คะแนนจี้ตามกันมาติดๆ กลับมาโชว์ฟอร์มได้สะเด่าอีกครั้งจนล่าสุดมีแต้มตามหลังจ่าฝูงเหลือเพียงแค่คะแนนเดียวบวกกับล่าสุดมีข่าวดีเพราะจะกลับมาได้ตัว วินิซิอุส จูเนียร์ (14 นัด/8 ประตู) ตัวรุกคนสำคัญพ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมอีกครั้งเท่ากับว่า บราฮิม ดิอ๊าซ (13 นัด/2 ประตู) จะกลับไปนั่งเป็นสำรองตามเคย ส่วนที่เหลือต้องย้ำว่า คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือใหญ่จะเลือกใช้งานผู้เล่นเซ็ทเดิมลงบู๊ด้วยระบบ 4-2-3-1 พร้อมวาง คิเลียน เอ็มบัปเป้ ดาวซัลโวของทีมที่ 10 ลูกรับหน้าที่จบสกอร์เช่นเคย
ฟันธง ต่อ เรอัล มาดริด พิชิตชัย

คู่ที่2 นีซ VS แรนส์ ราคาในตลาดหลักทรัพย์เปิดมาให้ เจ้าบ้าน ต่อ 0/0.5 (ปป)

คู่นี้ นีซ  เตรียมเปิดสนาม  Allianz Riviera ต้อนรับการมาเยือนของทีม แรนส์ โดยเจ้าบ้าน นีซ ยังคงรักษาสถิติที่ไม่แพ้ในการเล่นเกมเหย้าในศึกลีกเอิง ฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมสำหรับทีม พวกเขามีสถิติชนะ 4 เสมอ 3 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสม่ำเสมอในการเล่นที่บ้าน แม้ว่าอาจจะมีการเสมอบ้างก็ตาม  ทางฝั่ง แรนส์ กลับมาทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง หลังจากที่พวกเขาเอาชนะ บอร์กโดซ์ มาได้ในเกมบอลถ้วย ทำให้พวกเขานั้นชนะคู่แข่งมาได้ 2 นัดติดต่อกัน  ดูแล้วเกมนี้ การที่ นีซ ยังไม่แพ้ในบ้านและมีฟอร์มที่แข็งแกร่งในสนามเหย้า ทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่น่าเชียร์ในการเล่นในบ้านเสมอมา  และเกมนี้ก็น่าจะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับแฟนบอลของตัวเองด้วยการเก็บ 3 แต้มไปได้ตามเป้า  แม้ว่าแขกรับเชิญจะเริ่มดีขึ้นมาก็ตามที

เจ้าบ้าน นีซ ฟอร์ม 6นัดหลังสุด ชนะ1 เสมอ2 แพ้3 เจอปัญหาผู้เล่นเจ็บรบกวนอย่างหนัก ที่ที่คาดว่านีซจะไม่มีดานเต้ (9 นัด) ปราการหลังตัวหลักที่จะกลับมาลงเล่นอีกครั้งปลายเดือนนี้ ยุสซูฟ เอ็นดายี่ชิมิเย่ เซ็นเตอร์แบ็กตัวหลักอีกตัวที่เจ็บ เช่นเดียวกับมอร์กก็อง ซ็องซง กองกลาง และเตเรม มอฟฟี่ กองหน้าที่พากันเดี้ยงยาว อาลี อั๊บดี้ แบ็กซ้ายตัวหลัก โมฮาเหม็ด อาลี โช กองหน้าที่ทำ 2 ประตูในลีก เอิง ซีซั่นนี้ และเฌเรมี่ โบก้า กองหน้าที่ทำไป 2 ประตูในยูโรป้า ลีก แต่ในลีก เอิง ยังไม่มีสกอร์ นอกจากนั้นจะไม่มีโจนาธาน เคลาส์ ตัวริมเส้นด้านขวาที่โดนแบน ขณะที่ทอม ลูเช่ต์ (10 นัด 1 ประตู) กองหลัง/กองกลาง โมฮาเหม็ด อับเดลโมเนม (7 นัด) ปราการหลัง และปาโบล โรซาริโอ (15 นัด 1 ประตู 1 แอสซิสต์) มิดฟิลด์ตัวหลักต้องรอทดสอบความฟิต 11 ตัวแรกตามระบบ 4-4-2 กองหน้าคู่น่าจะเป็นแกต็อง ลาบอร์ (9 นัด 3 ประตู 2 แอสซิสต์) และเอวานน์ เกสซานด์ (15 นัด 6 ประตู 3 แอสซิสต์) แดนกลางอิช็อง บูดาวี (11 นัด 1 ประตู 1 แอสซิสต์) โซฟิยาน ดิย็อป (12 นัด 3 ประตู 2 แอสซิสต์) ต็องกีย์ เอ็นดงเบเล่ (2 นัด 1 ประตู 1 แอสซิสต์) และบาเดรดีน บูวานนี่ (13 นัด 2 ประตู) เป็นตัวทำเกม

ทีมเยือน แรนส์ ฟอร์ม 6นัดหลังสุด ชนะ3 แพ้3 ฮอร์เก้ ซัมเปาลี เฮ้ดโค้ชแรนส์ เกมนี้จะขาดตัวหลักแค่อาลิดู ไซดู ปราการหลังที่มีอาการบาดเจ็บต้องพักจนจบฤดูกาล ข่าวดีคือน่าจะได้อามีน กูอิรี่ (2 ประตูในลีก เอิง) ที่พลาดเกมที่แล้วในเฟร้นช์คัพ กลับมามีชื่ออีกครั้ง 11 ตัวแรกตามระบบ 5-4-1 ตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าน่าจะเป็นอาร์กโนด์ กาลิมุนโด้ (14 นัด 6 ประตู) ดาวยิงประจำทีม ด้านหลัง ลูโดวิค บลาส (15 นัด 4 ประตู 5 แอสซิสต์) จอร์แดน เจมส์ (7 นัด) อาซอร์ มาตูซิว่า (14 นัด) และโชตา (9 นัด 1 ประตู) เป็นตัวทำเกม ส่วนทาง เเรนส์ ยังถือว่าโชว์ฟอร์มอยู่ใน “แดนบวก” ลงเตะ 5 เกมเท่ากัน ทำสถิติไว้ที่ “ชนะ 3 เเพ้ 2” แต่นัดนี้ นีซ จะได้เปรียบที่ลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลของตัวเอง เชื่อว่า พวกเขาจะ “เชือด” เจ้าบ้านได้ชัวร์ๆ
ฟันธง ต่อ นีซ รีดฟอร์มได้

คู่ที่3 ยูเวนตุส VS เอซี มิลาน ราคาในตลาดหลักทรัพย์เปิดมาให้ เจ้าบ้าน ต่อ เสมอ

คู่นี้ อิตาลี่ ซูปเปอร์ คัพ แข่งกันที่สนามกลาง Al Awal Park at King Saud University  โดย ยูเวนตุส ของเทรนเนอร์ ติอาโก้ ม็อตต้า  แม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่กำลังปรับปรุงทีม แต่พวกเขายังคงเป็นทีมที่ยากจะเอาชนะ พวกเขามีความแข็งแกร่งในเกมรับ และพวกเขาสามารถรักษาผลการแข่งขันที่ดีในช่วงที่ผ่านมา  แสดงให้เห็นถึงความยากในการเอาชนะพวกเขา  ทางฝั่ง เอซี มิลาน ของกุนซือใหม่ แซร์โจ้ คอนไซเซา ซึ่งทำให้ทีมอาจมีฟอร์มที่ดีขึ้นในช่วงแรกหลังจากการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม มิลานยังคงเป็นทีมที่ยากจะคาดเดา ฟอร์มของพวกเขาไม่ค่อยสม่ำเสมอ  ดูแล้วเกมนี้ เอซี มิลาน การกระตุ้นจากผู้จัดการทีมใหม่ น่าจะทำให้พวกเขานั้นสามารถเอาอยู่ในเกมนี้  แม้ว่าจะยังคงไม่แน่นอนนักในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่า ยูเวนตุส จะยังดูเหนือกว่า แต่ในท้ายที่สุดก็น่าจะกินกันไม่ลงอยู่ดี

เจ้าบ้าน ม้าลาย ยูเวนตุส ฟอร์ม 6นัดหลังสุด ชนะ3 เสมอ3 ซึงคืนนี้เป็นถ้วยเก่าแก่ระดับประเทศ มองดูแล้วก็น่าจะเน้นกันอยู่พอสมควร  ติอาโก้ ม็อตต้า เฮ้ดโค้ช “ม้าลาย” ยูเวนตุส ทีมอันดับ 6 กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เตรียมปรับโหมดมาเตะ ซูเปอร์ คัพ ที่สนามกลาง ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยสภาพความพร้อมยังขาด อาร์คาดิอุซ มิลิค ศูนย์หน้าทีมชาติโปแลนด์, เบรแมร์ กองหลังบราซิเลี่ยนและ ฮวน คาบัล แนวรับชาวโคลอมเบีย ที่ยังบาดเจ็บทั้งหมด รวมถึง ดานิโล่ เซนเตอร์แบ็กกัปตันทีม ไม่มีชื่อในทีมชุดนี้ หลังจากมีข่าวลือเตรียมย้ายซบ นาโปลีช่วงกลางฤดูกาล แต่มีลุ้นได้ ทิโมธี่ เวอาห์ (12 นัด/4 ประตู) กลับมาช่วยทีมหากผ่านการทดสอบความฟิต สำหรับทีมชุดดวลต่างแดนใช้ 4-2-3-1 แนวรุกมี ฟรานซิสโก้ คอนไซเซา รอดวลทีมพ่อกับ ตวน คู้ปไมเนอร์ส ที่จ่ายคนละ 3 แอสซิสต์ คอยสนับสนุน ดูยัน วลาโฮวิช หอกเซิร์บที่กด 7 ประตูในเซเรีย อา

ทีมเยือน ปีศาจแดงดำ เอซี มิลานฟอร์ม6นัดหลังสุด ชนะ3 เสมอ2 แพ้1 แซร์โจ้ คอนไซเซา กุนซือชาวโปรตุกีสของ “ปีศาจแดง-ดำ” เตรียมอ้าแข้นรับ ราฟาเอล เลเอา (15 นัด/3 ประตู), คริสเตียน พูลิซิช (14 นัด/5 ประตู), รูเบน ลอฟตัส ชีคและ ยูนุส มูซ่าห์ กลับมาเป็นทางเลือกของเจ้านายใหม่ โดยเบื้องต้นคาดว่า พูลิซิช เตรียมถูกส่งลงสนามทันที เท่ากับตอนนี้ เอซี มิลานขาดเพียง โนอาห์ โอคาฟอร์, ซามู ชุควูเอเซ่และ อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ 3 แข้งที่ยังบาดเจ็บ ส่วนแผนบู๊ของ รอสโซเนรี่เป็น 4-2-3-1 ตรงกลางส่ง ติยานี่ ไรจ์นเดอร์ส (5 ประตู) แข้งดัตช์ดวลเพื่อนร่วมชาติที่ยืนมิดฟิลด์ฝั่ง ยูเว่ ขยับไปแนวรุก อัลบาโร่ โมราต้ากับ แทมมี่ อับราฮิม ยิงไป 4 กับ 2 ประตูตามลำดับ ส่วนแผนกป้อนต้องจับตา พูลิซิชกับ ราฟาเอล ซึ่งจัดไปคนละ 4 แอสซิสต์
ฟันธง ต่อ ยูเวนตุส ฉุดชัย 

คู่ที่4 วิตอเรีย กิมาไรส์ VS สปอร์ติ้ง ลิสบอน ราคาในตลาดหลักทรัพย์เปิดมาให้ ทีมเยือน ต่อ 0.5/1

คู่นี้ วิตอเรีย กิมาไรส์ เตรียมเปิดสนาม Estádio Dom Afonso Henriques ต้อนรับการมาเยือนของทีม สปอร์ติ้ง ลิสบอน โดยเจ้าบ้าน วิตอเรีย กิมาไรส์ ในเกมนี้มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้เกมนี้เป็นการแข่งขันที่ดี เนื่องจากพวกเขาต้องสูญเสียผู้จัดการทีมให้กับสปอร์ติ้ง ลิสบอน ซึ่งเป็นทีมเยือนในเกมนี้ การที่ผู้จัดการทีมย้ายไปอยู่กับ สปอร์ติ้ง ถือเป็นความสูญเสียใหญ่ของ และ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ภายใต้กุนซือ รุย บอร์เกส จะต้องมาปราบทีมเก่าในเกมนี้ อาจจะต้องเจอกับช่วงเวลาที่กดดันจากเจ้าบ้านในเกมนี้ เนื่องจากวิตอเรีย กิมาไรส์   จะตั้งรับและตอบโต้ได้ดี แต่ถึงแม้ว่า สปอร์ติ้ง ลิสบอน  จะมีสถิติการเล่นนอกบ้านที่ไม่ค่อยแข็งแกร่งในช่วงหลัง พวกเขายังคงมีนักเตะที่มีคุณภาพและความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบากได้ดี จึงน่าจะลุ้นสานต่อผลงานที่ดีไปได้ในเกมนี้

เจ้าบ้าน วิตอเรีย กิมาไรส์ ฟอร์ม 6นัดหลังสุด ชนะ1 เสมอ4 แพ้1 เจ้าถิ่น วิตอเรีย กิมาไรส์ ของเทรนเนอร์ ดาเนียล ซูซา ผลงานในลีก 5 เกมหลังสุดพวกเขาคว้าชัยชนะไปได้เพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น ส่วนสภาพความพร้อมนั้นเกมวันนี้จะขาดผู้เล่นอย่าง โทนี่ บอเรฟโควิช, เฆซุส รามิเรซ, เนลสัน โอลิเวรา และบรูโน กัสปาร์ ที่บาดเจ็บหมดสิทธิ์ลงสนาม ด้านการจัดทัพคาดว่าพวกเขาจะมาในระบบ 4-3-3 โดยที่ 3 ประสานในแดนหน้าจะใช้ ไคโอ เซซาร์ (15 นัด / 1 ประตู), กุสตาโว่ ซิลวา (13 นัด / 4 ประตู) และนูโน ซานโตส (16 นัด / 2 ประตู) ลงบู๊ร่วมกัน  เจ้าถิ่น วิตอเรีย กิมาไรส์ ผลงานช่วงหลังย่ำแย่เพราะพวกเขาไม่ชนะมา 4 นัดติดต่อกัน แมตช์นี้เตรียมเปิดรังรอรับการมาเยือนของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ทีมที่เพิ่งเปลี่ยนโค้ชมาหมาดๆ และเกมแรกที่คุมทีมก็คว้าชัยชนะได้อีกด้วย

ทีมเยือน สปอร์ติ้ง ลิสบอน ฟอร์ม 6นัดหลังสุด ชนะ2 เสมอ แพ้2 ทางฝั่งของทีมเยือน สปอร์ติ้ง ลิสบอน ทีมจ่าฝูงของตารางภายใต้การทำทีมของกุนซือใหม่อย่าง รุย บอร์เกส คุมทีมนัดแรกก็ทำได้ดีเลยเพราะเอาชนะทีมดังอย่าง เบนฟิก้า ไปได้ 1-0 เรียกความมั่นใจให้กับขุมกำลังได้เป็นอย่างมาก ส่วนสภาพความพร้อมนั้นเกมวันนี้ ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือว่าติดโทษแบนใดๆ ด้านการจัดทัพคาดว่าพวกเขาจะมาในระบบ 3-4-3 โดยที่ 3 ประสานในแดนหน้าอย่าง ฟรานซิสโก ตรินเกา (16 นัด / 5 ประตู), จีโอวานี เควนดา (16 นัด / 1 ประตู) และดาวยิงประจำทีมอย่าง วิกตอร์ โยเคเรส (16 นัด / 18 ประตู) ลงล่าสกอร์ในเกมนี้
ฟันธง ต่อ สปอร์ติ้ง ลิสบอน นอนมา

ฟังเสียงวิเคราะห์ได้ทาง YOUTUBE รับชม ข่าวบอล ประวัตินักเตะ และวิเคราะห์บอลได้ที่ ดูบอลสด และกีฬาอื่นๆ หรือเข้ากลุ่มช่องทาง FACEBOOK

แหล่งที่มา

https://moon53.com/
https://omo1112.online/