ลิเวอร์พูล พบ เรอัล มาดริด! 5 ประเด็นหงส์ไร้เทียมทาน-ราชันหมดทางสู้
ลิเวอร์พูล จ่าฝูง พรีเมียร์ลีก เดินหน้ากำชัยชนะในเกม แชมเปี้ยนส์ลีก ได้เป็นนัดที่ห้าติดต่อกันแล้วจากการเปิดบ้านไล่ทุบ เรอัล มาดริด ได้อย่างยอดเยี่ยม 2-0 ในการฟาดแข้งเมื่อวันพุธที่ 27 พ.ย.ยัดเยียดความปราชัยให้กับ ราชันชุดขาว คู่ปรับสำคัญได้อย่างเจ็บแสบแม้อันที่จริง หงส์แดง น่าจะมีสกอร์ที่ขาดลอยกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่เป็น ติโบ กูร์กตัวส์ ที่ช่วยเซฟแชมป์เก่าไม่ให้ขายหน้ามากไปกว่านี้ UFABET
1. หงส์ได้ เทรนต์ คืนฟิตนั่งสำรอง
ลิเวอร์พูล ได้รับข่าวดีเมื่อ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ หายเจ็บแล้ว และมีชื่อนั่งข้างสนามในเกมนี้ตามที่ อาร์เน่อ สล็อต ระบุกับสื่อก่อนแล้ว จากการวางโผ 11 คนแรกของ หงส์แดง รับมือ เรอัล มาดริด ของกุนซือดัตช์ส่งผลให้ คอเนอร์ แบรดลีย์ ได้ทำหน้าที่แบ็คขวาต่ออีกเกม หลังบุกไปแซงชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-2 ในเกม พรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เร้ด แมชีน เปลี่ยนทีมตัวจริงรวมสองรายโดย หลุยส์ ดิอาซ กับ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กลับสู่โผ 11 คนแรกแทน โดมินิค โซโบซไล กับ โคดี้ กัคโป
2. ชุดขาวพิการจับ วัลเวร์เด้ เล่นฟูลแบ็คต่อ
เรอัล มาดริด ประสบกับปัญหาขาดสตาร์ดังมากถึงหกราย และส่งผลให้ คาร์โล อันเชล็อตติ ต้องสลับตำแหน่งนักเตะตามคาด
โดยเฉพาะ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ กองกลางทีมชาติ อุรุกวัย ที่ต้องสวมบทแบ็คขวาอีกนัด ขณะที่ ราอูล อเซนซิโอ กองหลังดาวรุ่งยืนเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟร่วมกับ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ โดยมี แฟร์กล็อง เมนดี้ ทำหน้าที่แบ็คซ้าย สำหรับสามกองหน้า ราชันชุดขาว จัดให้ บราฮิม ดิอาซ ยืนเป็นหัวหอกโดย คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ปักหลักทางซ้ายตามถนัด ส่วน อาร์ด้า กือแลร์ ทำเกมรุกทางขวาเนื่องจาก วินิซิอุส จูเนียร์ กับ โรดรีโก้ บาดเจ็บทั้งคู่ ขณะที่ เอ็นดริค มีชื่อเป็นตัวสำรอง เทียบจากเกม ลา ลีกา นัดล่าสุดที่บุกไปคว่ำ เลกาเนส 3-0 กุนซืออิตาเลี่ยนโรเตชั่นทีมสามตำแหน่งโดยใช้บริการ บราฮิม แทน วินิซิอุส ขณะที่ ลูก้า โมดริช กับ เมนดี้ ได้ลงเล่นก่อนหน้า ฟราน การ์เซีย กับ ดานี่ เซบายอส
3. นูนเญซ ดับ-แบรดลีย์ เด่น
ลิเวอร์พูล แสดงให้เห็นถึงฟอร์มที่กร้าวแกร่งดังเดิมในนาทีนี้ และตลอด 45 นาทีแรกพวกเขาเล่นได้เหนือกว่าแชมป์ 15 สมัยแม้จะไม่อาจเบิกสกอร์ได้ก็ตามจากโอกาสที่ปรากฏโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดาร์วิน นูนเญซ ซึ่ง สล็อต พยายามปั้นให้กลับมาเป็นยอดดาวยิงเหมือนสมัยโด่งดังกับ เบนฟิก้า ให้ได้มีโอกาสเข่นแบบเหน่งๆสองครั้งซึ่งน่าจะเป็นประตู แต่กองหน้าทีมชาติ อุรุกวัย ไม่อาจเอาชนะ กูร์กตัวส์ ได้ทั้งๆที่ทีมเจ้าบ้านสมควรเป็นฝ่ายออกนำหน้าก่อนอย่างยิ่ง อย่างไรก็ดี แม้จะยังใช้โอกาสเปลืองไม่เลิก แต่จากภาพรวม นูนเญซ เล่นได้อย่างอันตราย และสร้างความหนักใจให้อาคันตุกะได้ตลอด หากแต่มันน่าจะดีกว่านี้หากเขามีความเด็ดขาดมากขึ้นสักที ในทางกลับกัน แบรดลีย์ น่าจะถูกจับตามองมากกว่าใครในเกมนี้เนื่องจากเขาต้องตามประกบ เอ็มบัปเป้ โดยเด็กปั้นของ หงส์แดง ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงรายการนี้นัดแรกซะด้วย และจากที่เห็น ดาวเตะทีมชาติ ไอร์แลนด์เหนือ โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจไม่เปิดโอกาสให้สตาร์ทีมชาติ ฝรั่งเศส ลากบอลหนีไปได้เลยแม้แต่หนเดียว และกลายเป็นเกมที่อดีตกองหน้าทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เล่นได้อย่างน่าผิดหวังอีกนัดนับตั้งแต่ย้ายมานุ่งขาวห่มขาว ไม่เพียงเท่านั้น ปราการหลังวัย 21 ปียังแสดงให้เห็นถึงความห้าวหาญในการเติมเกมรุกเป็นระยะ แถมมีจังหวะได้ส่องยิงอีกต่างหากซึ่งเป็นการบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า ลิเวอร์พูล มีตัวตายตัวแทน อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แล้วหากสุดท้ายสตาร์ดังจะเลือกย้ายออกจาก แอนฟิลด์ โดยไม่ต่อ
4. เคลเลเฮอร์ อยู่หรือย้าย?
แม้เกมของ ลิเวอร์พูล จะข่ม เรอัล มาดริด อย่างหนักกระทั่งมาได้ประตูนำจาก แม็ค อัลลิสเตอร์ ต้นครึ่งหลัง แต่ ราชันชุดขาว มีโอกาสตีเสมอจากจังหวะที่ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ทำฟาลว์ ลูกัส บาซเกซ ตัวสำรองของทีมเยือนในเขตโทษ ทว่า เอ็มบัปเป้ ซึ่งมีฟอร์มที่ย่ำแย่ในเกมนี้สังหารลูกโทษไปโดน ควีวิน เคลเลเฮอร์ เซฟได้ จากฟอร์มของนายทวารทีมชาติ ไอร์แลนด์ ในซีซั่นนี้มันชี้ให้เห็นว่าเขาสมควรได้รับบทประตูมือหนึ่งของสโมสรอย่างแท้จริงตามที่เจ้าตัวมีความมั่นใจว่าฝีไม้ลายมือไม่ได้เป็นรองใครในทีมเลย อย่างไรก็ดี เท่าที่ผ่านมาทั้ง เจอร์เก้น คล็อปป์ และ สล็อต ยืนยันชัดว่า อลิสซง คือผู้รักษาประตูมือหนึ่งของสโมสร แถมนายใหญ่ดัตช์เซ็นสัญญากับ จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ จากทีม บาเลนเซีย เอาไว้ก่อนแล้ว มันจึงบ่งบอกให้เห็นกลายๆว่า เคลเลเฮอร์ มีอนาคตที่ไม่มั่นคงกับ หงส์แดง และอาจต้องกลับไปรับบทตัวสำรองตามเดิมหากนายทวารทีมชาติ บราซิล หายเจ็บ รวมถึงซีซั่นหน้าที่สโมสรจะมีผู้รักษาประตูคนใหม่ด้วย เป็นซะอย่างนี้ อนาคตของ เคลเลเฮอร์ จึงน่าจับตามองไม่น้อยว่าเขาจะอยู่หรือไปจากเมอร์ซีย์ไซด์ไม่แพ้สามสตาร์ที่ยังไม่ได้ต่อสัญญาใหม่กับ หงส์แดง ทั้ง โม ซาลาห์ , อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ และ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์
5. สล็อต ปลดล็อก
แม้แต่ คล็อปป์ ก็ไม่สามารถเนรมิตสิ่งนี้ให้กับกองเชียร์ เดอะ ค็อป ชื่นใจได้ จากการคุมทีมดวลกับ ราชันชุดขาว รวมหกครั้ง อดีตกุนซือด๊อยช์ไม่เคยมอบชัยชนะให้กับแฟนบอล เร้ด แมชีน ได้เลยจากผลงานแพ้ห้า เสมอหนึ่ง กระทั่ง เครื่องจักรสีแดง มาได้ผู้จัดการทีมชาว เนเธอร์แลนด์ สร้างความสะใจได้สำเร็จด้วยการพาทีมสยบ ราชันชุดขาว ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี นับถึงตอนนี้ สล็อต พาทีม ลิเวอร์พูล คว้าชัยชนะมากถึง 17 จาก 19 นัดในทุกรายการ ขณะที่ในศึก แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งเขาพาทีมชนะรวดห้านัด หงส์แดง ซัดประตูได้มากถึง 12 เม็ด และเสียไปแค่เม็ดเดียวเท่านั้น ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูล มีผลงานในบ้านเกม แชมเปี้ยนส์ลีก ที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องด้วยโดยพวกเขาแพ้คารังแค่เกมเดียวเท่านั้นจากการลงเล่นในรอบแบ่งกลุ่ม หรือ ลีก เฟส 22 นัดหลัง
5 แข้งลิเวอร์พูลที่พัฒนาขึ้นในยุค “อาร์เน่อ สล็อต”
หลังจาก อาร์เน่อ สล็อต เข้ามาสานงานต่อจาก เยอร์เก้น คล็อปป์ ในถิ่นแอนฟิลด์ ฤดูกาลนี้ ทางด้าน อาร์เน่อ สล็อต ที่คุมลิเวอร์พูลไปแล้ว 17 เกมในทุกรายการ ก็พิสูจน์ความสามารถให้ “เดอะ ค็อป” ได้เห็นในระดับหนึ่งด้วยการพา ลิเวอร์พูล เป็นจ่าฝูงทั้งในพรีเมียร์ลีกและในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในรูปแบบ ลีก เฟส นอกจากนี้ในศึกคาราบาว คัพ ลิเวอร์พูล ก็ไปได้ถึงรอบ 8 ทีมด้วยเช่นกัน มาดูกันว่าในทีมลิเวอร์พูลชุดนี้ มีแข้งรายได้ที่ยกระดับหลังการเข้ามาของกุนซือชาวดัตช์รายนี้กันบ้าง
1. อิบราฮิมา โกนาเต้
ยังไม่แน่นอนกับอนาคตเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยมีรายงานว่าปารีส แซงต์ แชร์กแมง ให้ความสนใจ ซึ่งสร้างชื่อให้กับตัวเองในกับผู้เล่นตัวจริงด้วยการจับคู่กับ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ในปีสุดท้าย ที่เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังอยู่ ในความเป็นจริงการมาของ อาร์เน่อ มีข้อโต้แย้งว่าดาวเตะฝรั่งเศสรายนี้นั้นมีพัฒนาการขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ จนถึงตอนนี้ในฤดูกาล 2024-2025 โคนาเต้ ยิงประตูแรกในพรีเมียร์ลีกได้ ขณะตัดบอลเฉลี่ย 4.41 ครั้งใน 90 นาที ซึ่งแทบจะเป็นสองเท่าของฤดูกาลที่ผ่านมา และมีเปอร์เซ็นต์การเข้าสกัด 80% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ย 68.1% ตลอดสามฤดูกาลภายใต้การคุมทีมของคล็อปป์
2.เคอร์ติส โจนส์
กองกลางรายนี้แม้อายุเพียง 23 ปี แต่ โจนส์ ก็เล่นให้กับทีมมานาน โดยขึ้นชุดใหญ่มาตอนอายุ 18 ปี ในฤดูกาลที่แล้วภายใต้การคุมทีมของ คล็อปป์ ดาวเตะรายนี้ลงเล่นไปเพียง 14 นัดเท่านั้น แต่ในยุคของ สล็อต แข้งคุณพ่อป้ายแดงกับได้รับความไว้วางใจและถูกใช้งานสารพัดประโยชน์มากขึ้น โดยได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในลีกครึ่งหนึ่ง แม้ช่วงเริ่มฤดูกาล โจนส์ จะมีอาการบาดเจ็บ แต่ก็ทำประตูและแอสซิสต์เท่ากับจำนวนเมื่อฤดูกาล 2023-2024 ไปเรียบร้อยแล้ว จนบางทีกองกลางที่ติดทีมชาติอังกฤษไปเรียบร้อย จะได้โอกาสมากกว่า โดมินิค โซบอสซ์ไล ที่ฟอร์มดร็อปลงไปกว่าฤดูกาลที่ผ่านมา ผลงานของโจนส์ ในการจับคู่กับ ไรอัน กราเฟ่นแบร์ก ผ่านบอลได้โดดเด่นถึง 93.4% ต่อเกมซึ่งสูงที่สุดในทีม
3.หลุยส์ ดิอาซ
แนวรุกทีมชาติโคลอมเบีย ถือว่าอยู่ในเส้นทางที่จะมีสถิติการมีส่วนร่วมกับการทำประตูสูงสุดในอาชีพค้าแข้งกับลิเวอร์พูล โดยเวลานี้เจ้าตัวทำไปแล้ว 9 ประตู 2 แอสซิสต์ ซึ่งเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ดิอาซ ทำไป 13 ประตู 5 แอสซิสต์ในทุกรายการ โดยฤดูกาลนี้แข้งวัย 27 ปีพัฒนาขึ้นมากภายใต้การคุมทีมของสล็อต โดยยิงประตูแรกของฤดูกาลนี้ได้เมื่อเดือนสิงหาคมในเกมที่พบกับ เบรนท์ฟอร์ด และตามมาด้วยการทำสองประตูที่น่าประทับใจในเกมที่พบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา ซึ่งทำให้ ดิอาซ ได้รับการยกย่องอย่างล้นหลาม ส่วนในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ก็มีชื่อซัดแฮตทริกแรกให้ลิเวอร์พูล นัดถล่มชนะไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 4-0 และตอนนี้ ดิอาซ ก็แทบจะกลายเป็นตัวหลักของทีมไปเป็นที่เรียบร้อย
4.โคดี้ กัคโป
ด้วยฟอร์มการเล่นในปัจจุบันของ หลุยส์ ดิอาซ ทำให้โคดี้ กัคโป แทบไม่มีโอกาสได้ลงสนามเลย อย่างไรก็ตาม เมื่อแนวรุกทีมชาติเนเธอร์แลนด์ มีโอกาสลงเลน เจ้าตัวก็ทำให้ สล็อต ต้องปวดหัวในการเลือกตัวอยู่ไม่น้อย ย้อนไปในเกมคาราบาวคัพที่พบไบรท์ตัน กัคโป ทำได้ 2 ประตูในเกมที่ชนะไป 2-1 พร้อมกับคำชมอย่าง “ยอดเยี่ยม ” ในฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งเป็นฤดูกาลแบบเต็มๆ ที่ กัคโป ได้ลงทำไป 16 ประตู 6 แอสซิสต์ จาก 53 นัดในทุกรายการ แต่ความสม่ำเสมอในการเล่นในฤดูกาลนี้ดูจะโดดเด่นกว่า โดย กัคโป ลงเล่นเป็นตัวจริง 12 นัดจนถึงตอนนี้ และทำไปแล้ว 5 ประตู 3 แอสซิสต์ โดยมีค่าคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 7.61 ตามข้อมูล จาก WhoScored.com นอกจากนั้นยังมีพัฒนาการในเกมรับ ด้วยการด้วยค่าเฉลี่ยแท็กเกิล 1.91 ครั้งต่อ 90 นาที เพิ่มขึ้นจาก 1.48 ครั้งในฤดูกาลที่แล้ว และสกัด 0.85 ครั้ง เพิ่มขึ้นจาก 0.77 ครั้ง
5.ไรอัน กราเฟ่นแบร์ก
หลังจากไม่อยู่ในแผนการทำทีมของบาเยิร์น มิวนิค โดยลงเล่นเป็นตัวจริงไปเพียง 3 นัดในบุนเดสลีกา จนถูกปล่อยมายังถิ่นแอนฟิลด์ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา และได้โอกาสลงเล่นป็นตัวจริง 12 เกมในลีก และลงเล่นทั้งหมด 26 เกมทุกรายการ ทำไป 1 ประตู แต่ในฤดูกาลนี้ กองกลางวัย 22 ปี ได้เปลี่ยนจากผู้เล่นสำรองมาเป็นแข้งตัวจริงในยุคของ อาร์เน่อ สล็อต และอาจพูดได้ว่า กราเฟ่นแบร์ก เป็นผู้เล่นที่พัฒนาไปมากที่สุดภายใต้บอสคนใหม่ ก็ว่าได้ ด้วยการเล่นในตำแหน่งผู้เล่นหมายเลข 6 นี้ ทำให้นักเตะชาวดัตช์รายนี้ผ่านบอลสำเร็จถึง 88.7% ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในการเล่นอาชีพเกมลีก นอกจากนี้ยังจ่ายบอลสำเร็จโดยเฉลี่ย 5.09 ครั้งต่อ 90 นาทีเมื่อเข้าสู่พื้นที่สุดท้ายของคู่แข่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจาก 2.80 ครั้งจากฤดูกาลที่แล้ว
ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตกองหลังคนดัง เปรียบเปรย ลิเวอร์พูล ว่าเป็นเหมือนสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ที่ไม่ได้กินอาหารมานานจนมีสภาพหิวกระหายกันอย่างมาก หลังล่าสุดพวกเขาเปิดรัง แอนฟิลด์ เอาชนะ เรอัล มาดริด 2-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบลีก
ผลงานดังกล่าวทำให้ ลิเวอร์พูล ชนะได้ครบทั้ง 5 นัดกับการเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ โดยถ้านับรวมทุกรายการนั้นพวกเขาเก็บชัยได้ถึง 17 เกมจากการลงเล่น 19 นัดเลยทีเดียว
เฟอร์ดินานด์ เผยว่า “ตอนนี้พวกเขาเหมือนกำลังท้าทายทีมอื่นๆ ทุกทีมในทวีปยุโรป ตอนนี้พวกเขาดูเป็นทีมที่ดีที่สุดของทวีปยุโรปเลย พวกเขาเล่นกันเป็นทีมได้ดี และนักเตะแต่ละคนก็ดูมีความกระหายอย่างมาก มันไม่ใช่แค่ว่าพวกเขาได้ผลการแข่งขันที่ดีเท่านั้น แต่พวกเขาดูมีความกระหายกันมากๆ ด้วย”
“พวกเขามีสภาพเหมือนเป็นคนที่ไม่ได้กินอาหารมาหลายปี เหมือนสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ที่วิ่งไปทั่วสนามเพื่อล่าคู่แข่ง พวกเขาเล่นกันได้นิ่งสุดๆ”
รับชม ข่าวบอล ประวัตินักเตะ และวิเคราะห์บอลได้ที่ ดูบอลสด และกีฬาอื่นๆ เดิมพันได้ที่ : UFA879
แหล่งที่มา
https://928plus2.com/
https://akacat1.co/home
