ดูบอลสด

ไม่ทอดทิ้ง! เป๊ป ลั่นพร้อมเคียงข้างแข้ง แมนซิตี้

ไม่ทอดทิ้ง! เป๊ป ลั่นพร้อมเคียงข้างแข้ง แมนซิตี้

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนซิตี้ ระบุ พร้อมเคียงข้างลูกทีมในช่วงเวลาที่เลวร้าย เหมือนที่ผู้ปกครองของตนก็ไม่เคยเฉดหัวตนทิ้งตอนเป็นเด็ก

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กล่าวว่าตนพร้อมที่จะคอยช่วยลูกทีมเสมอ หลังจากล่าสุดพวกเขาเพิ่งออกไปแพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ความปราชัยดังกล่าวทำให้ แมนซิตี้ ไม่ชนะใครมา 7 นัดติดต่อกันในทุกรายการเข้าไปแล้ว โดยเป็นการแพ้ถึง 6 เกมด้วย ซึ่งเป็นผลงานที่ไม่เคยมีใครคาดคิดว่าจะเกิดกับทีมระดับ “เรือใบสีฟ้า” โดยเฉพาะในยุคของ กวาร์ดิโอล่า

กุนซือคนดังเผยว่า “ทุกวันนี้ผมมีชีวิตดีกว่าแต่ก่อนเยอะ ขนาดเวลาดื่มไวน์ผมยังรู้สึกว่ารสชาติมันอร่อยกว่าแต่ก่อนเลย ผมเป็นพวกมองโลกตามความเป็นจริงน่ะนะ ผมคิดว่าผมค่อนข้างจริงใจกับตัวเองพอตัวเลย ผมโชคดีที่ได้ใช้ชีวิตแบบนั้น และตอนนี้ผมก็ไม่ได้มีอาการหดหู่แม้แต่นิดเดียว”

“ตอนที่ผมมีปัญหาน่ะคุณแม่กับคุณพ่อของผมท่านก็ไม่เคยทิ้งผมให้อยู่ข้างทางเลย พวกท่านคอยอยู่เคียงข้างผมเสมอ และตอนนี้ผมก็รักสโมสรแห่งนี้มากๆ จนอยากอยู่เคียงข้างนักเตะเหล่านี้อย่างเต็มที่”

อาร์เน่อ สล็อต กุนซือ ลิเวอร์พูล เชื่อว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะเรียกฟอร์มเก่งให้ แมนซิตี้ ได้ จนไม่จำเป็นต้องรู้สึกเห็นใจอีกฝ่าย พร้อมบอกว่า “หงส์แดง” ยังไม่ควรเหลิงจนเกินไป

อาร์เน่อ สล็อต เฮดโค้ช ลิเวอร์พูล แสดงความมั่นใจว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะพาทีมกลับมาทำผลงานที่ยอดเยี่ยมได้ หลังจากล่าสุด “หงส์แดง” เพิ่งชนะอีกฝ่าย 2-0 ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ช่วงหลายนัดที่ผ่านมา แมนซิตี้ สะดุดอย่างต่อเนื่องจนทำให้ไม่ชนะใครถึง 6 จาก 7 เกมหลังสุดในทุกรายการ ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นการแพ้ในลีก 4 นัดรวด โดยนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตการคุมทีมของ กวาร์ดิโอล่า ด้วยที่ทีมของเขาพ่ายในลีกติดต่อกันเยอะขนาดนั้น ไม่ว่าจะเป็นการทำงานกับทีมไหนก็ตาม

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (Pep Guardiola) เป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในวงการฟุตบอล โดยมีประวัติการคุมทีมที่เต็มไปด้วยความสำเร็จทั้งในระดับสโมสรและลีกต่าง ๆ ดังนี้:

1. บาร์เซโลน่า (2008–2012)

  • กวาร์ดิโอล่ามารับหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมบาร์เซโลน่าในปี 2008 หลังจากที่เขาได้เป็นนักเตะของสโมสรมาโดยตลอดในช่วงก่อนหน้านี้
  • ในฤดูกาลแรกที่เขาคุมทีม (2008-2009) เขาพาบาร์เซโลน่าคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ (แชมป์ลาลีกา, แชมป์โกปาเดลเรย์, และแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก)
  • การเล่นฟุตบอลในยุคของกวาร์ดิโอล่าเน้นการครองบอลที่เหนือชั้น (Tiki-Taka) ซึ่งมีผลกระทบอย่างมากต่อวงการฟุตบอลทั่วโลก
  • เขาพาบาร์เซโลน่าคว้าแชมป์ลาลีกา 3 สมัย (2009, 2010, 2011) และแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย (2009, 2011)
  • กวาร์ดิโอล่าตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งในปี 2012 หลังจากที่เขาประสบความสำเร็จอย่างมาก

2. บาเยิร์น มิวนิค (2013–2016)

  • หลังจากลาออกจากบาร์เซโลน่า กวาร์ดิโอล่าก็ได้ย้ายไปรับงานคุมทีมบาเยิร์น มิวนิคในปี 2013
  • กวาร์ดิโอล่าใช้วิธีการเล่นที่เน้นการครองบอลและการบุกที่ดุดัน แต่ไม่สามารถคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกได้ในช่วงที่เขาคุมทีม
  • เขาพาบาเยิร์นคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 3 สมัย (2014, 2015, 2016) และแชมป์อื่น ๆ เช่น เดเอฟเบ โพคาล (2014) และซูเปอร์คัพของเยอรมัน (2013, 2014)
  • หลังจากจบฤดูกาล 2015-2016 กวาร์ดิโอล่าตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับบาเยิร์นและย้ายไปแมนเชสเตอร์ ซิตี้

3. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (2016–ปัจจุบัน)

  • กวาร์ดิโอล่ามารับหน้าที่คุมทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในปี 2016 และได้สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการเล่นฟุตบอลของทีม
  • เขานำทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย (2018, 2019, 2021, 2022, 2023) และแชมป์อื่น ๆ เช่น เอฟเอ คัพ, คาราบาว คัพ, และยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกในปี 2023
  • ในปี 2017-2018 กวาร์ดิโอล่าได้ทำลายสถิติหลายรายการในพรีเมียร์ลีก โดยพาทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้คว้าแชมป์ด้วยคะแนนสูงสุดในประวัติศาสตร์ของลีกอังกฤษ (100 คะแนน)
  • เขามีความสามารถในการปรับแทคติกและนำทีมบุกอย่างมีระเบียบและมีประสิทธิภาพสูง

ลักษณะการคุมทีม

  • กวาร์ดิโอล่ามักจะเน้นการควบคุมบอลและการเล่นที่มีความรอบคอบ โดยเขาให้ความสำคัญกับการครองบอล (Tiki-Taka) และการสร้างโอกาสทำประตูจากการเล่นที่เป็นระเบียบ
  • เขาเป็นที่รู้จักในเรื่องของการพัฒนานักเตะในทีมและการนำเสนอแนวทางการเล่นที่ทันสมัย โดยใช้สถิติและการวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของทีม
  • เขามีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับลีกและทีมต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างมากในทุกที่ที่เขาคุม

กวาร์ดิโอล่าเป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่มีอิทธิพลต่อวงการฟุตบอลยุคใหม่ และยังคงเป็นหนึ่งในผู้จัดการที่ดีที่สุดในโลก.

สรุป

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในวงการฟุตบอล โดยมีประวัติการคุมทีมที่สำคัญดังนี้:

  1. บาร์เซโลน่า (2008–2012): คุมทีมบาร์เซโลน่าคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในฤดูกาลแรก (ลาลีกา, โกปาเดลเรย์, ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก) และพาทีมคว้าแชมป์ลาลีกา 3 สมัยและแชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย
  2. บาเยิร์น มิวนิค (2013–2016): คุมทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 3 สมัย แม้ไม่สามารถคว้าแชมเปี้ยนส์ลีกได้
  3. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (2016–ปัจจุบัน): คุมทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย และแชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย (2023) พร้อมสถิติมากมายในพรีเมียร์ลีก เช่น คะแนนสูงสุด (100 คะแนน)

กวาร์ดิโอล่าเป็นที่รู้จักในเรื่องการเล่นฟุตบอลที่เน้นการครองบอล (Tiki-Taka) และการปรับแทคติกอย่างมีประสิทธิภาพ

รับชมข่าวบอล ประวัตินักเตะ และวิเคราะห์บอลได้ที่ ดูบอลสด และกีฬาอื่นๆ เดิมพันได้ที่ : UFA879

แหล่งที่มา

https://928plus2.com/
https://mkubbet1.com/

ผลบอลวันนี้